วัตถุประสงค์การศึกษา
1) ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา
แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาและคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า
เพื่อจะหาหนทางที่จะสื่อมาในรูปแบบทางสถาปัตยกรรม
2) ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชุมชน
กิจกรรม และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน รวมไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมประเภทนี้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร การใช้งานเชื่อมโยงกันมากน้อยแค่ไหน
3) ศึกษาจากกรณีอาคารตัวอย่างที่มีความใกล้เคียงทั้งทางด้าน
กิจกรรม ระบบการจัดการและรูปแบบของอาคาร
4) ศึกษาวิวัฒนาการของวัดในประเทศไทยและต่างประเทศ
5) ศึกษาเทคโนโลยีการก่อสร้างที่มีในโครงการ
รวมถึงระบบอุปกรณ์ต่างๆที่เหมาะสมกับโครงการ
และวัสดุท้องถิ่นที่สามารถนำมาใช้ในโครงการประเภทนี้ได้
ขอบเขตการศึกษา
1) ศึกษาข้อมูลที่จะสื่อออกมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับแก่นแท้ของพุทธศาสนาและสอดคล้องกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชุมชน และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงมากที่สุด
2) หาหน้าที่ใช้สอยของโครงการที่ทำการศึกษาในเรื่องผู้ใช้โครงการ กิจกรรม
การจัดการ การบริหาร
และขนาดพื้นที่ใช้สอยให้สัมพันธ์กับองค์ประกอบต่างๆ ภายในโครงการ
3) หารูปแบบโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับที่ตั้งโครงการและจินตภาพโครงการ
4) เศรษฐศาสตร์ของโครงการที่ทำการศึกษาในเรื่องงบประมาณการลงทุน แหล่งที่มาเงินทุน รวมถึงคุณภาพของอาคาร
5)
นำเอาเทคโนโลยีของงานระบบอาคารมาใช้เพื่อให้เหมาะสมกับโครงการประเภทนี้
ขั้นตอนของการศึกษา
1) แสดงถึงความเป็นมาของที่ตั้งโครงการ ผู้ใช้โครงการ
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องและพื้นที่ใช้สอยโครงการ
2) กำหนดเป้าหมายของโครงการที่ทำการศึกษาในด้านหน้าที่ใช้สอย ด้านรูปแบบ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคโนโลยี
3) เก็บรวบรวมข้อมูลของโครงการที่ทำการศึกษาในด้านหน้าที่ใช้สอย ด้านรูปแบบ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคโนโลยี
4) กำหนดแนวความคิดของโครงการที่ทำการศึกษาในด้านหน้าที่ใช้สอย ด้านรูปแบบ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคโนโลยี
5) วิเคราะห์รายละเอียดความต้องการของโครงการที่ทำการศึกษาในด้านหน้าที่ใช้สอย ด้านรูปแบบ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคโนโลยี
6) สรุปภาพรวมของโครงการที่ทำการศึกษาในด้านหน้าที่ใช้สอย ด้านรูปแบบ
ด้านเศรษฐศาสตร์
และด้านเทคโนโลยีและเสนอแนวทางในการออกแบบ
7) ออกแบบโครงการและนำเสนอผลงานในการออกแบบ
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษา
1) สามารถประยุกต์และแสดงออกถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาผ่านทางงานสถาปัตยกรรมได้
2) รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเพณี วัฒนธรรม
ศาสนาและชุมชนว่าเชื่อมโยงกันอย่างไร
แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบพื้นที่โครงการ
3) สามารถออกแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกันระหว่างธรรมะ
ประเพณี วัฒนธรรม กิจกรรมและการใช้สอยได้นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่และเหมาะสมเข้ามาใช้ในโครงการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น